แสบตา น้ำตาไหลเองเมื่อเจอแสง
#ตาล้า #ตาแห้ง #ตาพล่ามัว
คุณเคยเจอปัญหานี้แล้วทำอย่างไร หลายๆคนรู้สาเหตุ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการทำงานในยุคดิจิตอล เราจำเป็นต้องใช้สายตาในการมองจอ

เมื่อโลกเปลี่ยนการใช้ชีวิตก็เปลี่ยนตาม ทุกคนหันมาใช้ตัวช่วยมากขึ้นในยุคที่เชื้อโรคระบาด โดยเฉพาะ

โควิด-19 จากที่เคยออกไปทำงาน ก็ต้องย้ายโต๊ะทำงานมาไว้ที่บ้าน

การพบปะพูดคุยกับผู้คนก็น้อยลง และเปลี่ยนมาทำงานที่หน้าจอมากขึ้น ทั้งคอมฯและโทรศัพท์

ดังนั้น..การใช้สายตาที่หนักก็จำเป็นต้องมีตัวช่วย
ไม่เช่นนั้น.....อาจสายไป
เราอาจจะแก้ไขไม่ได้หากปล่อยให้การมองเห็นมีปัญหา และกลายเป็นอุปสรรค์สำคัญในการใช้ชีวิตและการทำงาน

เอมมูร่า-V(Aimmura-V) นวัตกรรมงานวิจัยเพื่อดูแลสายตา หนึ่งในผลงานวิจัยเซซามีน(Sesamin)

กลุ่มเอมมูร่า นวัตกรรมงานวิจัยต้นน้ำ

เซซามีน(sesamin) #ตัวจริงเซซามีน โดย

ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ทีมนักวิจัยคณะแพทย์

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พัฒนาสูตรอาหาร โดยการนำคุณค่าสารสกัดจากธรรมชาติ หลอมรวมได้อย่างลงตัว

เป็น 5 ส่วนผสมหลัก คือ
-เซซามีน(Sesamin)จากงาดำ

-รำข้าวสีนิล 

-แป้งข้าวหอมมะลิ

-โคเอ็นไซม์ คิวเท็น 

-บิลเบอร์รี่

หลอมรวมคุณประโยชน์เป็นหนึ่งเดียว เพื่อมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพดวงตาเป็นสำคัญ

เหมาะสำหรับทุกคนในยุคออนไลน์ ที่ต้องใช้สายตาหนัก จ้องจอทั้งวัน จึงเป็นทางเลือกเพื่อดูแลสุขภาพดวงตา

ผลงานวิจัยสารเซซามิน(Sesamin)ได้รับการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว

 

เรามารู้จักข้อดีของ "บิลเบอร์รี่" กันค่ะ

มีเรื่องเล่าว่า...สมัยก่อนชาวตะวันตกจะไม่นิยมนำผลสุกมารับประทาน แต่จะทำการแปรรูปก่อนทาน แต่พอหลังสงครามโลกครั้งที่2 การรับประทานผลสดกลับได้รับความนินมมากขึ้น 

สีบเนื่องมาจากเมื่อตอนเกิดสงคราม นักบินรบชาวอังกฤษ จะรับประทาผลบิลเบอร์รี่สดทุกครั้งก่อนขึ้นบิน โดยเชื่อว่าจะทำให้การมองเห็นดีขึ้นโดยเฉพาะตอนกลางคืน

 บิลเบอร์รี่จึงขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้สุดยอดแห่งการบำรุงดูแลสายตา เพราะบิลเบอร์รี่มีสารอาหารครบถ้วน อาทิ

 วิตามินA  วิตามินC  โซเดียม

 ฟอสฟอรัส   สังกะสี   แคลเซียม

 ซีลีเนียม   แมงกานิส   ไบโอฟาโวนอยด์

นักวิจัยชี้ชัด เอมมูร่าวี(Aimmura-V)ดีต่อสายตาและ

"4 สารสำคัญในบิลเบอร์รี่"

1.แอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanisides) สามารถจับกับเซลล์บุผิว (Pigmented Epithelium) ที่จอภาพเรตินาได้ดี มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ดีเลิศ (Anti-Oxident)ลดความเสื่อมของเซลล์ เสริมสร้างหลอดเลือดและผนังหลอดเลือดฝอย เพิ่มสีจอประสาทตา จึงช่วยให้ตาทนต่อแสงได้ดี และคืนสภาพสารโรดอพซิน(Phodopsin)ได้หลังจากถูกแสง จึงช่วยให้การมองเห็นในที่มืดได้ดี

2.แทนนิน (Tannins) มีฤทธิ์ในการสมานแผล(Astringent)และให้ผลในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่น แบคทีเรียบางชนิด

3.ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid)เป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ(Anti-Oxidant) และเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนหลายชนิดของมนุษย์

4.กลูโคควินิน(Glucoquinine)เป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้การทำงานของอินซูลิน ทำให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดดีขึ้น